นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศร ษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทร วงการคลัง
เปิ ดเผยความคืบหน้ าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่ านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต าม
โครงการลงทะเบี ยนเพื่อสวั สดิการแห่งรั ฐ (โครงการฯ) ปี 2565 ณ วันที่ 8 มีนาคม 2566
มีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 3,583,633 ร าย
สำหรับจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไ ม่ผ่ านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต ามโครงการฯ
มีผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 763,449 ร าย
ทั้งนี้ การยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่ านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติหรือขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ
ผ่ านหน่วยงานรับลงทะเบี ยนเป็นไปตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
โดยการให้บริการในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รั ฐมนตรีว่าการกระทร วงการคลังได้มีดำริให้สาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่มีสาขาในห้างสรรพสินค้า
ที่ยังไ ม่ให้บริการยืนยันตัวตน และยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ
พิจารณาเปิ ดให้บริการเพิ่มเติมเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
นอกจากนี้ คณะรั ฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการการจัดสรรประชารั ฐสวั สดิการใ หม่
สำหรับผู้ที่ผ่ านคุณสมบัติโครงการลงทะเบี ยนเพื่อสวั สดิการแห่งรั ฐปี 2565 (ผู้มีบัตรฯ)
โดยมาตรการบรรเทาฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระค่ าไฟฟ้าและค่ าน้ำประปาให้แก่ผู้มีบัตรฯ
ทั้งนี้ ร ายละเอี ยดการดำเนินมาตรการบรรเทาฯ มีดังนี้
1. สวัสดิการค่ าไฟฟ้าและค่ าประปา
1.1) สวัสดิการค่ าไฟฟ้า ปัจจุบันประชาชนทั่วไปจะได้รับการสนับสนุนค่ าไฟฟ้าจากมาตรการของรั ฐบ าล
โดยการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีเงื่ อนไขว่า
หากประชาชนใช้ไฟฟ้าไ ม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติ ดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน
จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี ดังนั้น ภายใต้มาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรฯ
จะเป็นกรณีที่ผู้มีบัตรฯ ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน
โดยจะได้รับสนับสนุนค่ าไฟฟ้าวงเงิน 315 บ าทต่อครัวเรือนต่อเดือน
แต่หากมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บ าทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่ าไฟฟ้าด้วยตนเองทั้งหมด
1.2) สวั สดิการค่ าน้ำประปา สนับสนุนค่ าน้ำประปาวงเงิน 100 บ าทต่อครัวเรือนต่อเดือน
โดยในกรณีที่ผู้มีบัตรฯ ใช้น้ำประปาเกิน 100 บ าทต่อครัวเรือนต่อเดือน
แต่ไ ม่เกิน 315 บ าทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเ งิน 100 บ าทต่อครัวเรือนต่อเดือน
โดยจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บ าท ต่อครัวเรือนต่อเดือนด้วยตนเอง
แต่หากผู้มีบัตรฯ ใช้น้ำประปาเกิน 315 บ าทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ผู้มีบัตรฯ ต้องเป็นผู้รับภาระค่ าน้ำประปาด้วยตนเองทั้งหมด
2. ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่ าใช้จ่ ายสำหรับค่ าไฟฟ้าและ/หรือค่ าประปา
โครงการฯ ปี 2565 ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่ าใช้จ่ ายสำหรับค่ าไฟฟ้าและ/หรือค่ าประปาสำหรับผู้มีบัตรฯ
จากเดิมที่ผู้มีบัตรสวั สดิการแห่งรั ฐภายใต้โครงการลงทะเบี ยนเพื่อสวัสดิการแห่งรั ฐ ปี 2560 และปี 2561
ต้องสำรองเงิ นจ่ ายค่ าใช้จ่ ายสำหรับค่ าไฟฟ้าและ/หรือค่ าประปาให้แก่ผู้ให้บริการล่ วงหน้ าก่อน
โดยผู้มีบัตรสวั สดิการแห่งรั ฐภายใต้โครงการลงทะเบี ยนเพื่อสวั สดิการแห่งรั ฐ ปี 2560 และปี 2561
จะได้รับเงิ นสนับสนุนคืนเข้าบัตรสวั สดิการแห่งรั ฐภายหลัง
สำหรับมาตรการบรรเทาฯ ในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนเป็นภาครั ฐโดยกระทร วงการคลังจะสนับสนุนค่ าไฟฟ้าและ/
หรือค่ าประปาให้แก่ผู้ให้บริการโดยตรงต ามมูลค่าที่ผู้มีบัตรฯ ใช้สิทธิ์ต ามเงื่ อนไขมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนด
โดยวิธีการสนับสนุนค่ าใช้จ่ ายนี้จะทำให้ผู้มีบัตรฯ
ไ ม่ต้องสำรองเงิ นจ่ ายค่ าบริการไปก่อน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิ นให้แก่ผู้มีบัตรฯ
ทั้งนี้ โฆษกกระทร วงการคลังได้ย้ำว่า ผู้ที่ผ่ านคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบี ยนเพื่อสวั สดิการแห่งรั ฐ ปี 2565
ที่ประสงค์รับสิทธิมาตรการบรรเทาฯ จะต้องลงทะเบี ยนขอรับสิทธิใ หม่ทุกคน
สิทธิค่ าไฟฟ้า สามารถลงทะเบี ยนเพื่อขอรับสิทธิได้ที่
1. สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่ านเว็ บไ ซต์ https://meagate1.mea.or.th เบอร์ติดต่อ 1130
2. สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่ านเว็ บไ ซต์ ค https://welfareregis.pea.co.th เบอร์ติดต่อ 1129
3. กิจการไฟฟ้า สวั สดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่ านเว็ บไ ซต์ https://walfareregis.sea.co.th คลิกที่นี่ 086-8481284
สิทธิค่ าน้ำประปา สามารถลงทะเบี ยนขอรับสิทธิได้ที่
1. สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่ านเว็ บไ ซต์ https://walfareregis.sea.co.th เบอร์ติดต่อ 1125
2. สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่ านเว็ บไ ซต์ https://register.pwa.co.th เบอร์ติดต่อ 1662
โดยผู้ที่ผ่ านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติและได้ยืนยันตัวตนสำเร็จเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ ปี 2565
แล้วสามารถลงทะเบี ยนเพื่อรับสิทธิค่ าไฟฟ้าและค่ าประปาได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
กับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้มีบัตรฯ รับบริการอยู่
ซึ่งหากลงทะเบี ยนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ.
สำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น.
หรือลงทะเบี ยนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น.
และ/หรือลงทะเบี ยนรับสิทธิค่ าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น.
จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ ใบแจ้งหนี้ค่ าบริการเดือนเมษายน 2566
สำหรับผู้ที่ลงทะเบี ยนภายหลังวันและเวลาดังกล่าว
เมื่อลงทะเบี ยนรับสิทธิค่ าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน
หรือลงทะเบี ยนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน และ/หรือลงทะเบี ยนรับสิทธิ์ค่ าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ.
สำเร็จภายในวันที่ 25 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน
จะสามารถได้รับสิทธิสำหรับใบแจ้งหนี้ค่ าบริการในเดือนถัดไป (ไ ม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิต ามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวั สดิการแห่งรั ฐภายใต้โครงการลงทะเบี ยนเพื่อสวั สดิการแห่งรั ฐ ปี 2560 และปี 2561
จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่ าบริการเดือนมีนาคม 2566 เป็นเดือนสุดท้ าย
โดยสามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิต ามมาตรการบรรเทาฯ
ไปชำระเพื่อขอรับเงิ นสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566
โฆษกกระทร วงการคลังย้ำว่า ผู้ที่ผ่ านการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการลงทะเบี ยนเพื่อส วัสดิการแห่งรั ฐ ปี 2565
สามารถเข้าร่วมมาตรการบรรเทาฯ ได้ทุกคน แต่ต้องปฏิบัติต ามเงื่ อนไขสวั สดิการของมาตรการบรรเทาฯ
ที่กำหนดการให้สวั สดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้ าน
ซึ่งสามารถลงทะเบี ยนรับสิทธิค่ าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน
เช่นเดียวกันกับค่ าประปาที่สามารถลงทะเบี ยนรับสิทธิค่ าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน